วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

IT Learning Journal Report (10) – February 1, 2011

Enterprise System, Supply Chain Management and Enterprise Resource Planning
Enterprise System
องค์กรที่ดีจะต้องพัฒนาระบบสารสนเทศของตนเองให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานจริงได้ การพัฒนาระบบอาจจะต้องมีการลงทุนทำให้บริษัทต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าเสมอ โดยระบบสารสนเทศพื้นฐานที่สุด คือ Functional Information System ซึ่งเป็นระบบที่แต่ละส่วนงานพัฒนาขึ้นเอง/จัดซื้อหากันเอง ซึ่ง Functional Information System ในแต่ละส่วนงานจะต่างกันเพราะ มีรูปแบบการทำงานไม่เหมือนกัน ทำให้ฐานข้อมูลอาจอยู่แยกจากกันและเกิดปัญหาฐานข้อมูลกระจัดกระจายกัน คนในบริษัทจึงไม่สามารถแชร์ข้อมูลกันได้ มีปัญหาในการพัฒนาบริษัทในที่สุด
Enterprise System จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้แก่บริษัท โดยจะใช้ Enterprise System รับส่งข้อมูลต่างๆในแต่ละส่วนงาน แล้วนำ Key Process มา Integrate กันได้ เช่น บริษัท Dell มีฐานการผลิตที่จีน แต่มีหน่วย Customer Service ที่อินเดีย แต่สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้เป็นอย่างดี
Enterprise-wide Systems
·       ERP: ระบบจัดการทรัพยากรภายในของบริษัทให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Oracle ที่เป็นระบบเชื่อมฐานข้อมูลกับลูกค้าและผู้ขายสินค้าได้
·       CRM
·       Knowledge Management Systems (KM)
·       Supply Chain Management (SCM): การบริหารห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่สั่งวัตถุดิบจนถึงส่งสินค้าให้ลูกค้า
·       Decision Support Systems (DSS)
·       Business Intelligence (BI)
Supply Chain Management
·       Warehouse Management System (WMS) ระบบที่ใช้บริหารสินค้าในคลัง เช่น จำนวนสินค้าที่ควรเก็บไว้ รูปแบบการวางสินค้าให้ประหยัดพื้นที่ การเข้าออกของสินค้า
·       Inventory Management System (IMS) ระบบที่ใช้จัดการสินค้าคงเหลือ
·       Fleet Management system ระบบที่บริหารการส่งสินค้าว่า มีจำนวนที่ส่งสินค้าในแต่ละที่เท่าไหร่ เช่น ส่งของไปภาคเหนือ จะส่งให้เชียงใหม่กี่ชิ้น เชียงรายกี่ชิ้น
·       Vehicle Routing and Planning ระบบที่คำนวณเส้นทางเดินรถที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ประหยัดน้ำมัน ชั่วโมงคนงานและเวลามากที่สุด เป็นต้น
·       Vehicle Based System ระบบที่ตรวจสอบสถานะของการส่งสินค้า เช่น ระบบ GPS ตรวจจับสถานที่ที่สินค้าไปถึง เป็นต้น
10 IT Trends for Logistics Supply Chain Management
1.             Connectivity เชื่อมต่อกับ device ได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้ Wireless สามารถเชื่อมต่อผ่านมือถือได้
2.             Advanced Wireless เช่น Voice & GPS ผ่านการใช้เสียง
3.             Speech Recognition คือการสั่งงานด้วยเสียง เช่น  Ford ผลิตรถยนต์ที่ใช้เสียงสั่งเปิดวิทยุ
4.             Digital Imaging การประมวลผลภาพดิจิตอลผ่านรูปภาพที่ถ่าย
5.             Portable Printing การพิมพ์ใบเสร็จแบบพกพาได้ เหมาะสมกับธุรกิจประกันภัยอย่างมาก
6.             2D & other barcoding advances บาร์โค้ด 2 มิติจะสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรได้มากกว่า 
7.             RFID
8.             Real Time Location Wireless LAN Network System (RTLS) ระบบแสดงตำแหน่งเวลาจริง ใช้ร่วมกับ RFID ทำให้บริษัทสามารถขยาย Wireless LAN Network ของบริษัทเข้าสู่ระบบการติดตามทรัพย์สิน ป้องกันการขโมยสินค้าได้
9.             Remote Management การจัดการทางไกล ใกล้เคียงกับ RTLS เพียงแต่ใช้สำหรับระยะไกล โดยใช้  Wireless LAN Network เพื่อติดตามทรัพย์สินของคลังสินค้าและโรงงาน
10.      Security ความปลอดภัยของอุปกรณ์และเครือข่ายไร้สาย
Supply Chain Management and Its Business Value
ทุกคนใน Supply Chain ต้องแชร์ข้อมูลร่วมกันในการทำงาน เช่น Walmart : Supplier ที่มีหน้าที่บอกว่าจะส่งของจำนวนเท่าใด เมื่อใดอาจแชร์ข้อมูลไม่หมด เพราะกลัว Walmart เปิดเผยกับคู่แข่ง ทำให้ อาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
การแชร์ข้อมูลกันจะต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกัน (Collaborative Planning) ผ่านการออกแบบการส่งข้อมูลและสินค้าร่วมกัน สามารถประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่จะเป็น รวมถึงผ่านการจัดการ Vendor Managed Inventory (VMI) ระหว่างคู่ค้าด้วย
Enterprise Resourse Planning System  (ERP)
           เป็นระบบที่ช่วยในการเชื่อมโยงประสานงาน แชร์ข้อมูลระหว่างแผนกต่างๆ ภายในองค์กรและนำมาประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศ ตัวอย่าง ERP system vendors เช่น  SAP,  Oracle เป็นต้น

นายสัจจวัฒน์  จันทร์หอม
เลขทะเบียน นศ. 5302110043

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น