วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Case3 : Dollar General Uses Integrated Software

1.       Explain why the old, nonintegrated functional system created problems for the company. Be specific
เนื่องจาก Dollar General มีร้านค้ามากกว่า 8000 สาขาใน 35 มลรัฐ หากแต่ละแผนกหรือแต่ละสาขาของ Dollar General นั้นมี Functional information system เป็นของตนเองที่ไม่เชื่อมโยงเข้ากันในแต่ละระบบ อาจจะส่งผลเสียและปัญหาต่างๆต่อ Dollar General เช่น
-              มีปัญหาเรื่อง Tax compliance : Dollar General อาจพบกับปัญหา VAT หรือ Income Tax rate ซึ่งจะต่างกันในแต่ละรัฐที่ Dollar General ได้ขยายสาขาไป ทำให้อาจยุ่งยากและผิดพลาดในการจัดทำรายงานภาษีต่อ Internal Revenue Service หรืออาจส่งผลต่อการตั้งราคาสินค้า
-              ข้อมูลที่นำมาตัดสินใจอาจผิดพลาด : แต่ละระบบไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้ข้อมูลอาจจะไม่เป็นปัจจุบัน จนอาจสูญเสีย Competitive advantage เช่น ข้อมูลขายของแต่ละสาขาที่เก็บในฐานข้อมูลสำนักงานใหญ่ ไม่เป็นปัจจุบัน ทำให้อาจตัดสินเลือกกลยุทธ์ผิดพลาด หรือ ข้อมูลพนักงานไม่อัพเดท อาจทำให้วางแผน HR ผิดพลาด เป็นต้น
-              จัดทำ Management report ได้ลำบาก : ฝ่าย IT จัดทำ report ได้ลำบากมากขึ้น เช่น ผู้บริหารต้องการได้การเปรียบเทียบยอดขายแต่ละสาขา IT officer อาจต้องเสียเวลาดึงข้อมูลในแต่ละระบบแล้วนำมาเปรียบเทียบอีกที
2.       The new system cost several million dollars. Why, in your opinion, was it necessary to install it?
เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว แม้ระบบใหม่จะมีต้นทุนสูง แต่ ประโยชน์ที่ได้รับมากกว่าต้นทุนในการซื้อและติดตั้งระบบดังกล่าว (Benefit > Cost)
-              ระบบนี้จะช่วยลดเวลาทำงานของพนักงานที่ไม่ได้ add value เช่น งานที่ให้พนักงานบัญชี A/P จัดเรียง Purchase order, Invoice, Receiving report และตรวจเช็คสินค้าว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งงานดังกล่าว ไม่ได้ add value แต่อย่างใดอีกทั้งอาจเกิด human error ได้ ดังนั้น บริษัทควรนำระบบใหม่นี้จะเข้ามาช่วยลดเวลาทำงาน จนลดจำนวนพนักงานบัญชี A/P เพิ่มความถูกต้องและความรวดเร็วในการจ่ายเงินให้แก่ vendors ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน สร้างความพึงพอใจแก่ vendors อีกด้วย
-              ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้นด้วยข้อมูลที่ updated เพราะระบบใหม่จะช่วยเชื่อมโยง Functional system เข้าด้วยกัน เช่น มี Business Intelligence ที่คอยดึงข้อมูลยอดขายจาก POS scanner แล้วไปวิเคราะห์ต่อ ผู้บริหารสามารถเลือกทางเลือกได้ดีขึ้น เป็นต้น จน
-              ช่วยให้บริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ เช่น กรณีภาษีขายในแต่ละรัฐต่างกัน ทำให้ Dollar General ตั้งราคาขายได้ถูก นำส่ง Output VAT ได้ถูกต้อง ไม่เสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
3.       Lawson Software Smart Notification Software (lawason.com) is being considered by Dollar General. Find information about the software and write an opinion for adoption or rejection.
Smart Notification Software คือ ระบบที่คัดกรองข้อมูลที่จำเป็นต่อการนำไปใช้งานโดยให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ทำให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลตัดสินใจได้ทันเวลา Software ยังช่วยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายด้วย ที่สำคัญ Smart Notification Software ยังคำนึงถึง Access authority ด้วย
บริษัทควร Adopt Lawson Software Smart Notification Software ด้วยสาเหตุต่างๆเช่น
-              ลด Information overload ของผู้บริหารเพราะ Dollar General เป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีข้อมูลต่างๆมากมาย หากข้อมูลได้ถูกคัดกรองแล้วส่งต่อให้ผู้บริหาร Software ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ดีและเร็วขึ้น ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตลาด
-              เป็น IT General control ที่ดี เพราะ ข้อมูลบางอย่างไม่ควรให้พนักงานบางแผนกรับรู้ เช่น Purchase officer ไม่ควรเข้าระบบรับจ่ายเงินได้
4.       Another new product of Lawson is Services Automation. Would you recommend it to Dollar General? Why or why not?
Services Automation คือ ระบบที่ใช้บริหารงาน บริหารทรัพยากร ค่าใช้จ่ายและการเงินของบริษัท ระบบนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ฟังก์ชัน ได้แก่
-              Opportunity management : จะวิเคราะห์ยอดขายในแต่ละสาขา แล้วช่วยหาโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ รวมถึงวิเคราะห์คาดการณ์ยอดขายในอนาคต  
-              Project Management  ช่วยวิเคราะห์ Project ว่า คุ้มกับเงินลงทุนหรือไม่
-              Resource Management  ช่วยวิเคราะห์ทรัพยากรการผลิตว่าเพียงพอหรือไม่ รวมถึงค้นหา Capability ของทรัพยากรในองค์กรด้วย
การตัดสินใจว่าจะซื้อ Services Automation หรือไม่ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของบริษัท เพราะ ฟังก์ชันส่วนใหญ่ของโปรแกรมนี้อาจจะไปทำงานซับซ้อนกับ Finance/Marketing department ซึ่งบริษัทควรเปรียบเทียบระหว่าง Cost and benefit ให้ดีๆ เพราะต้องลงทุนสูง
ในความเห็นส่วนตัว ผมไม่แนะนำ เพราะ การวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจซึ่งเป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรมนั้นมีหลายปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น วิเคราะห์ยอดขายอาจจะต้องดูเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองประกอบ ซึ่ง Software ดังกล่าวอาจไม่สามารถทำได้ อีกทั้งรูปแบบการตัดสินใจทางธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้ Software นี้ล้าสมัยในที่สุด ไม่คุ้มค่ากับเงินลงทุน บริษัทควรจ้าง Business analyst น่าจะมีราคาถูกกว่า

นายสัจจวัฒน์  จันทร์หอม
เลขทะเบียน นศ. 5302110043

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

IT Learning Journal Report(3) – November 22, 2010

Transaction Processing Systems (TPS) หรือ ระบบประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง
TPS เป็นหนี่งในระบบสารสนเทศของบริษัท ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับ TPS ดังต่อไปนี้
พัฒนาขึ้นครั้งแรกตั้งแต่กลางทศวรรษ 1950 ในช่วงหลังสงครามโลก
-      TPS ถูกคิดค้นเพื่อประยุกต์คอมพิวเตอร์ใช้กับธุรกิจในยุคแรกๆ
-      TPS ช่วยในเรื่องของการทำงานที่มีลักษณะซ้ำๆกัน (Repetitive)
-      TPS จะช่วยรวบรวมและจัดระเบียบรายการเปลี่ยนแปลง (Transaction)
-      TPS เก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง มักเก็บตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง (Real Time)
โดย TPS จะสนับสนุนการปฏิบัติงานหลักขององค์กรให้ทำได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เช่น การวางบิลลูกค้า การคำนวณเงินเดือน ฯลฯ เลยถือว่า TPS จึงเป็นระบบที่มีความสำคัญมากต่อธุรกิจ
TPS characteristics
-      Reliability : ระบบมีการเก็บข้อมูลและประมวลผลที่คงที่น่าเชื่อถือ
-      Standardization : ข้อมูลมีลักษณะเดียวกันเพื่อให้ผู้ใช้ระบบนั้นสามารถยึดถือปฏิบัติได้
-      Controlled Access : มีระบบรักษาความปลอดภัยโดยอนุญาตเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
TPS มีลักษณะที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ TPS ควรสามารถเก็บฐานข้อมูลจำนวนมากได้ TPS ประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเพราะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมากที่ป้อนเข้าไปและที่ผลิตออกมาต่อวัน การประมวลผลของ TPS ควรมีโครงสร้างที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน โดย TPS จะมีการประมวลผลเป็นประจำทุกวันทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ TPS ควรรักษาความปลอดภัย และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
วงจรของการประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง
1.             Data entry : เก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจโดยบันทึกข้อมูลเข้าไป เช่น POS ในsupermarket
2.             Transaction processing แบ่งเป็น
-      Real time : สามารถเก็บข้อมูลและประมวลผลได้ทันทีแบบ online แต่มีต้นทุนสูง เพราะอาจมีลักษณะงานบางอย่างไม่จำเป็นที่จะต้องประมวลผลตลอดเวลา
-      Batch : ข้อมูลถูกรวบรวมไว้แล้วประมวลผลในเวลาที่กำหนด ไม่จำเป็นต้อง Online real-time เช่น ระบบ Payroll เป็นต้น
3.             Database updating การบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูลและการจัดการกับฐานข้อมูล ซึ่งเราควรคำนึง
ความถูกต้องของข้อมูลความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
4.             Document report ออกรายงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบสั่งซื้อ ใบส่งจ่าย เช็คสั่งจ่าย ใบแสดงสถานะของลูกค้า เป็นต้น
5.             Inquiry Processing รับคำร้องสอบถามข้อมูล ผ่าน Internet, Intranet, Extranet, Web browser ตลอดจนระบบฐานข้อมูล และสามารถนำเสนอในรูปแบบเอกสารสำหรับพิมพ์ หรือทางหน้าจอ เช่นการร้องตรวจสอบยอดค้างในบัญชีของลูกค้า
วัตถุประสงค์ของระบบประมวลผลการเปลี่ยนแปลง
-      เพื่อตอบคำถามที่เกิดขึ้นประจำวัน
-      เพื่อติดตามรายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กร
-      เพื่อผลิตและเตรียมสารสนเทศสำหรับระบบประเภทอื่นๆ เนื่องจากTPSเป็นระบบที่เป็นหัวใจขององค์กรที่คอยสนับสนุนระบบอื่นๆในองค์กร
ผู้ใช้ระบบประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง
-      ผู้จัดการ
-      ผู้ควบคุมดูแลระดับล่าง (Low-level Supervisor)
-      ผู้ทำงานในระดับปฎิบัติการ (Operation level)
Marketing Information System Application
-      สามารถใช้เป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าและบริการตามความต้องการของตนได้ เช่น Dell, Jaguar เป็นต้น
-      ยังใช้เป็นช่องทางการตลาด PR ได้อีก
ตัวอย่างระบบ TPS ในฟังก์ชั่นต่างๆ
-      HR มักใช้ในการรับสมัครงาน บันทึกชั่วโมงทำงาน ระบบจ่ายเงินเดือน Training ระบบประเมินผลงาน ระบบจัดการผลประโยชน์พนักงาน เป็นต้น
-      Logistic  เช่น เทคนิค RFID สามารถใช้ในการระบุและ track สินค้าได้
-      E-Procurement  ใช้ในการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน B2C และ B2G
-      การใช้งานอื่นๆ เช่น Software Helps Cirque du Soleil : คณะละครสัตว์คณะหนึ่งจัดการแสดงทั่วโลก ทำให้มีพนักงานจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ระบบสารสนเทศเข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูล รวมทั้งการจัดส่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆที่จะต้องจัดส่งข้ามเมืองเพื่อจัดการแสดงในที่ต่างๆ หรือ สายการบินที่ใช้ In-flight card payments เข้ามาใช้แทนบัตรเครดิตในการจองตั๋วหรือชำระเงิน
Presentation of IT hype cycle
Virtualization
เทคโนโลยี Virtualization เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เครื่องแม่ข่าย (Server) หนึ่งเครื่อง สามารถมีระบบปฎิบัติการหรือระบบเสมือนอยู่ภายในได้มากกว่าหนึ่งระบบ โดยสร้าง Layer ของการเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับระบบปฎิบัติการขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า Hypervisor หรือ Virtual Machine Monitor (VMM) เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการให้ระบบปฎิบัติการหลายๆ ตัวในเครื่องสามารถใช้งานทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, Memory หรือ Hard disk ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Virtualization ทำให้สามารถช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องแม่ข่าย และใช้งานเครื่องแม่ข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงบริหารจัดการระบบที่ดีขึ้นด้วย
Speech Recognition
            Speech Recognition คือระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงเสียงพูด (Audio File) เป็นข้อความตัวอักษร (Text) โดยสามารถแจกแจงคำพูดต่างๆ ที่มนุษย์สามารถพูดใส่ไมโครโฟน โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และเข้าใจคำศัพท์ทุกคำอย่างถูกต้องเกือบ 100% โดยเป็นอิสระจากขนาดของกลุ่มคำศัพท์ ความดังของเสียงและลักษณะการออกเสียงของผู้พูด โดยระบบจะรับฟังเสียงพูดและตัดสินใจว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นคำๆใด
Radio Frequency Identification (RFID)
เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่และอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิตยิ่งขึ้น เช่น ระบบบันทึกข้อมูลการจัดการสินค้าระหว่างการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อ Track and Trace หรือในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน บัตรพนักงานที่ใช้ทั่วไป เป็นต้น
การใช้งาน ก็คือ ระบุตัวตน และการติดตาม เช่น ฟาร์มปศุสัตว์ มาจากฟาร์มไหน สามารถระบุข้อมูลได้ค่อนข้างมาก ปัจจุบันใช้ระบะ ID Card ของพนักงาน เครื่องชำระเงินอัตโนมัติ easy pass ,ใช้งานใน supply chain ติดต่อไปยัง supplier,ใช้ติดตาม ว่าสินค้าตอนนี้ไปอยู่ ณ ที่ใด

สัจจวัฒน์  จันทร์หอม
เลขทะเบียน นศ. 5302110043

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Case Discussion 2 : Building an E-Business at FedEx Corporation

1.              Identify the networks cited in this case.
ระบบเครือข่ายที่พบใน case study ดังกล่าว ได้แก่
-                   ระบบเครือข่าย Internet ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อระหว่างลูกค้า, e-Commerce business และสาขาต่างๆของ FedEx
-                   ระบบเครือข่าย Global Virtual Private Network (VPN) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งเชื่อมเครือข่ายในแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยอาศัย Internet เป็นตัวกลาง มีการทำอุโมงค์ข้อมูล (Tunnel) มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งต้องการความคล่องตัวในการติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างสาขา โดยข้อมูลจะเป็นความลับมากกว่าระบบ Internet
-               ระบบเครือข่าย Leased-line เป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อเครือข่ายบริษัทในเฉพาะลูกค้ารายนั้นๆ (Leased Line Circuit) ระบบเครือข่าย Leased-line จะมีการใช้งานที่รวดเร็วและปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ข้อมูลจะไม่รั่วไหล แต่มีค่าใช้จ่ายมาก
-                   ระบบเครือข่าย Value-added Network (VAN) เป็นเครือข่ายกึ่งสาธารณะซึ่งให้บริการเพิ่มขึ้นจากการติดต่อสื่อสารปกติผู้ให้บริการสื่อสาร (Communication service provider) เป็นเจ้าของ VAN อย่างไรก็ตาม VAN เร็วกว่า Internet และมีความปลอดภัยมากกว่า Internet
2.              How does IT improve the performance of FedEx ? (Relate to the book’s performance management model)
เทคโนโลยี Internet ซึ่งมีราคาไม่สูงมากช่วยให้ FedEx ติดต่อกับสาขาต่างๆทั่วโลกของ FedEx ได้ง่ายขึ้น Internet ยังส่งผลให้ Performance ของ FedEx นั้นดีขึ้น เช่น
-          ช่วยให้ FedEx มีรายได้เพิ่มขึ้นจากบริการใหม่ e-Commerce solution โดยธุรกิจสามารถ outsource ระบบสารสนเทศและระบบขนส่งสินค้าจาก FedEx ได้ และจากการให้บริการ e-Commerce solution นี้เอง ทำให้ FedEx มีรายได้จากการขาย Hardware และ Software ด้วย เช่น FedEx PowerchipMC, FedEx Ship Manager Server, FedEx ShipAPITM, FedEx NetReturn® เป็นต้น
-          FedEx สามารถบริการให้ลูกค้าประทับใจได้มากยิ่งขึ้น เป็นไปตามเป้าหมาย 100% Customer service เช่น ลูกค้าสามารถเช็คสถานการณ์ส่งของสินค้าทาง internet ได้ผ่านระบบ e-Shipping tool
-          FedEx มีต้นทุน Fixed cost/unit ที่ต่ำลง เพราะ FedEx ได้พยายามขยาย Scope of service ให้หลากหลายมากขึ้น ทำให้ FedEx มีกำไรเพิ่มมากขึ้น
3.              In what ways are personalization and customization provided?
Personalization และ Customization มีลักษณะคล้ายกันคือ ต้องการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า แต่ต่างกันตรงที่ Personalization คือ การปรับตกแต่งสินค้าและบริการให้ลูกค้าพึงพอใจด้วยผู้ให้บริการเอง (Service provider-based) แต่ Customization คือ การปรับตกแต่งสินค้าและบริการตามที่ลูกค้าต้องการ (Customer-based)
FedEx สามารถนำหลัก Personalization มาใช้ได้ เช่น FedEx อาจปรับ Online shopping website ให้แสดงรายการสินค้าตามประเภทรายการสินค้าที่ลูกค้าชอบ เมื่อลูกค้า log in เข้าไป
ขณะเดียวกัน FedEx สามารถนำหลัก Customization มาใช้ได้ เช่น FedEx สามารถสร้างซอฟต์แวร์ FedEx ShipAPITM ซึ่งเป็น Internet-based application ให้มีแต่ฟังก์ชันใช้งานเท่าที่จำเป็น ไม่ต้องเขียน source code จำนวนมากซึ่งจะทำให้โปรแกรมทำงานได้ช้าลง
4.              What are the benefits to the customers?
ผมจะขอแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มในการวิเคราะห์ คือ ลูกค้า Business e-Commerce กับลูกค้าทั่วไป
                ลูกค้า Business e-Commerce
-          ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถลดต้นทุนได้จาก Outsource บริการขนส่งและระบบขายสินค้าผ่าน FedEx จน Business e-Commerce ไม่ต้องแบกรับต้นทุนมหาศาลหากทำการขนส่งสินค้าด้วยตนเอง ทำให้เกิด Competitive advantage สามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นๆได้
-          ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายได้เพิ่มจาก Online shopping website ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นโดยมีต้นทุนต่ำ
-          ลูกค้าของ e-Commerce สามารถได้รับสินค้าเร็วขึ้นด้วย เพราะลด Process ที่ e-Commerce business ต้องนำสินค้ามาส่งสาขา FedEx โดย FedEx สามารถบรรจุสินค้าและจัดส่งจาก warehouse ได้เลย
ลูกค้าทั่วไป
-          ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากขึ้น เพราะสามารถตรวจสอบสถานการณ์ส่งสินค้าได้ตลอดเวลาผ่าน e-Shipping tool ทำให้มั่นใจได้ว่า FedEx จะสามารถส่งพัสดุได้ถึงผู้รับได้แน่นอน

สัจจวัฒน์    จันทร์หอม
เลข นศ. 5302110043

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

IT Learning Journal Report – November 16, 2010

Class 2 : Understanding and Managing Information Technologies
Introduction case
Mary Kay ขายเครื่องสำอางคล้ายๆ กับ Mistine แต่ Mary Kay ได้ปรับปรุง Business process ให้เกี่ยวข้องกับ IT เกือบจะทุกด้าน เช่น ขายสินค้าผ่านทาง internet, ใช้ social network ทำ CRM, ตัวแทนขายสามารถเช็คสินค้าผ่านทางมือถือได้ เป็นต้น
Concepts and Definition of Information systems
เราควรมาทราบคำว่า Data และ Information กันก่อน
1.             ข้อมูล (Data) คือ ข้อมูลที่เป็นหน่วยพื้นฐาน ยังไม่มีความหมาย
2.             สารสนเทศ (Information) ข้อมูลดิบที่ถูกจัดโครงสร้าง และผ่านการประมวลผลด้วยโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์แล้ว ทำให้สารสนเทศจึงมีความหมาย นำไปตัดสินใจได้ อาจจะประ
ตัวอย่าง เช่น เกรด A ไม่มีความหมายอะไร เป็น Data แต่ถ้านำมาคำนวณ GPA จะกลายเป็น Information ทันที สามารถใช้ตัดสินใจรับสมัครเข้าเรียนได้
                ดังนั้น Information system คือ ระบบที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนด  รวบรวม จัดเก็บข้อมูล  ประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างสารสนเทศ และส่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศที่ได้ให้ผู้ใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจขององค์กร
                Information system ที่ดีควรแปลง Information ให้เป็น Knowledge ขององค์กรได้ อย่างไร ปัญหาขององค์กรในปัจจุบันคือ มี Data จำนวนมากแต่ไม่สามารถทำให้เป็น Information และ Knowledge ได้
Pyramid Level of Information systems
-         Personal and Productivity systems เช่น โทรศัพท์มือถือที่สามารถนำระบบ chat มาใช้กับนักธุรกิจ
-         Transaction Processing systems (TPS) เป็นระบบที่รวบรวม จัดเก็บ ประมวล การทำธุรกรรมทางธุรกิจขององค์กร เช่น ระบบบัญชี
-         Functional Information systems เป็นระบบที่จัดรูปแบบให้สอดคล้องกับฟังก์ชันการทำงานของแผนก  โดยส่วนใหญ่ ระบบของแต่ละแผนกไม่นิยมนำมาเชื่อมกัน เพราะ Oracle SAP มันแพงมากๆ และ กลัวข้อมูลที่เป็นความลับของแผนกมันจะรั่วไหล
-         Enterprise systems(Integrated) เป็นระบบที่ link ภายในองค์กรเดียวกัน และอาจจะใช้เชื่อมกับ supplier/customer ได้ เช่น SAP Oracle เป็นต้น
-         Interorganizational systems (IOS) อาจจะใช้เชื่อมองค์กรหลายๆองค์กรเข้าด้วยกัน เช่น ติดต่อกับ บริษัทแม่ที่เมืองนอก สำหรับบริษัทที่มี branch อยู่ทั่วโลก
-         Global systems เป็นระบบที่ใช้ติดต่อทั่วโลก
-         Very large and special systems เช่น Amadeus, saber (เป็นระบบจองตั๋วเครื่องบินที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก) ถ้าระบบนี้เสีย อาจจะทำให้ธุรกิจทั่วโลกหยุดชะงัก
Types of Information systems
1.              Transaction Processing System (TPS)
-         เป็นระบบที่มีความสำคัญที่สุดขององค์กร เพราะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้อยู่ในฐานข้อมูล เช่น ระบบ Payroll, shipping เป็นต้น
2.              MIS (Management Information systems)
-         จะใช้ให้ผู้บริหารระดับกลางไว้ใช้ เช่น เวลาผู้บริหาร 7-11 เขต กทม. อยากเปรียบเทียบยอดขายแต่ละสาขาใน กทม. สามารถเรียกข้อมูลจาก MIS ไว้ใช้ตัดสินใจทำ sales promotion ได้ โดยระบบนี้จะไม่ใช้สำหรับผู้บริหารระดับล่างและพนักงาน
-         ความหมายอีกอย่างของ MIS คือ วิชาบริหารที่นำ IT มาใช้ในธุรกิจ เช่น การนำข้อมูลมาทำ report ให้ผู้บริหารใช้ตัดสินใจ
-         MIS มีความสัมพันธ์กับ TPS โดย MIS จะได้ข้อมูลมาจากการรันประมวลผลของระบบ TPS หาก TPS รันผิดพลาด อาจจะส่งผลให้ MIS ทำงานได้ผิดพลาด เช่นเดียวกัน อย่าให้เกิดกรณี garbage in – garbage out ขึ้นในองค์กร เช่น ธนาคารแห่งหนึ่งรันข้อมูลแล้วมี 00 เพิ่มมา จนทำให้ข้อมูลที่ไปรายงานต่อผิดพลาด
3.              Decision support systems (DSS)
-         ระบบที่ช่วยตัดสินใจ ผู้บริหารอาจจะไม่เห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลด้วยตาเปล่า DSS จะนำข้อมูลภายนอก+การวิเคราะห์ของระบบ แล้วมันจะให้คำตอบว่า ผู้บริหารควรตัดสินใจอย่างไรดี จะต่างจาก MIS ตรงที่ MIS จะใช้ข้อมูลในอดีตอย่างเดียว
-         DSS จะมีประโยชน์เชิง scm เช่น ควรจะ ship ของเท่าไร ส่งของไป port ก. เท่าไรดี
4.              Group Decision support systems (GDSS)
-         ประกอบด้วย Equipment, ชุดกำลัง, Peopleware
-         ส่งผลให้การทำงานในองค์กรยุคใหม่ จะมีห้องทำงานที่โต๊ะประชุมของแต่ละคนจะมีจอคอมโชว์ข้อมูลให้เห็นเลยอยู่ข้างหน้าคุณ (GDSS room) จะช่วยลดความขัดแข้งระหว่างกันทำงานได้
5.              Executive support system (ESS)
-         ช่วยผู้บริหารระดับสูงใช้ได้เท่านั้น โดยใช้ข้อมูลจาก TPS/MIS/DSS และข้อมูลภายนอกมาประมวลผลเพื่อช่วยตัดสินใจด้วย
-         ESS จะมี interface ที่เป็น graph, dashboard (สามารถลากเปลี่ยนข้อมูลไปมาได้) เช่น Google finance
Other Business Information Systems
Supply chain management systemsระบบบริหารข้อมูลตั้งแต่ตั้งแต่สั่งซื้อ RM จนขาย
Customer relationship management systems -ระบบที่จะช่วยให้เรารักษาลูกค้าที่ดีไว้ได้ รวมถึง push ลูกค้าที่อาจจะไม่ดี ให้เป็นลูกค้าที่ดีได้
Knowledge Management Systems – ระบบที่ช่วยจัดการความรู้ในองค์กรเพราะอาจจะนำมาแชร์ได้ในอนาคตและใช้ต่อยอดองค์ความรู้ จะหา Best practice ต่อไป นอกจากนี้ KMS จะช่วยให้ดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวพนักงานนั้นออกมา และ Knowledge จะต่อยอดให้เป็น wisdom ในที่สุด
Intranet - การใช้ Internet ภายในองค์กรของเราเฉพาะ
Extranet - การใช้ Internet ใช้เชื่อมต่อระหว่างองค์กร แต่จะ private เช่น เชื่อมสาขา กทม.-อุดรธานี
Collaboration and Communication system เช่น Lotus note, Instant Messaging (IM), Wikis
E-business –ระบบที่เกี่ยวกับค้าขายระหว่างองค์กรมากกว่า
E- government - เช่น ระบบเสียภาษี online หรือ ระบบทำ passport
Responsibility of Information System Department
                เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีและวางแผนงาน IT ขององค์กรได้ ความต้องการแผนกนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและ Business model ขององค์กร จะมี CIO/CTO เป็นหัวหน้าแผนก
Emerging Computing Environment
-         SAS: Software as a Service
-         Web Service
-         Utility Computing – Internet หลายเป็นสาธารณูปโภคชนิดหนึ่ง
-         Enterprise GPS เช่น รถ Taxi ในสิงคโปร์
Pervasive Computing
เทคโนโลยีจะมาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ในทุกเรื่อง
Open Source Code Software
ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์ทั่วไป ไม่ใช่บริษัทที่แสวงหากำไร เพราะบริษัทเหล่านั้นทำให้โปรแกรมไม่เสถียรเพื่อค่อยๆขายออกมาในแต่ละ Edition Open source software ได้แก่ Mozilla firefox

Summary of Presentation
Electronic paper
-         มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้เหมือนกระดาษปกติ
-         สามารถอัพเดตข้อมูลได้เหมือนคอมพิวเตอร์
-         มีการใช้ black light ที่ช่วยรักษาสายตา
-         อ่านกลางแจ้งได้ เนื่องจากสะท้อนแสงได้ และสามารถอ่านได้ในทุกมุมมอง
-         สามารถบันทึกได้ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า 
-         มีน้ำหนักเบาโค้งงอได้ ทนทาน
Tablet PC
-         เข้าถึง internet ได้ง่าย ใช้ระบบสัมผัสหรือเสียง
-         มี application อื่นๆมากมายรองรับ
-         Tablet PC จะเข้ามาแทนที่การอ่านหนังสือของมนุษย์
Green It
-         Green IT คือ แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ และนำขยะอิเลคทรอนิคส์มารีไซเคิลใหม่อีกด้วย
-         ตัวอย่าง เช่น ใช้ LCD แทน CRT monitor, ใช้ระบบ cloud computing แทนการใช้ server หลายตัว

Sajjawat Junhom ID 5302110043